สรุปงาน WWDC 2025

สรุปไฮไลต์สำคัญจากงาน WWDC 2025: การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบนิเวศของ Apple

งานประชุมนักพัฒนาประจำปีของ Apple หรือ WWDC 2025 ที่จัดขึ้นในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้เปิดตัวนวัตกรรมและการปรับปรุงครั้งใหญ่ในระบบปฏิบัติการและเทคโนโลยีต่าง ๆ ของบริษัท โดยเน้นการออกแบบใหม่ที่เรียกว่า “Liquid Glass” และการผสานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ผ่าน “Apple Intelligence” เพื่อยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ในทุกอุปกรณ์ของ Apple

Liquid Glass: การออกแบบใหม่ที่เปลี่ยนโฉมระบบปฏิบัติการ

Apple ได้เปิดตัวการออกแบบใหม่ที่เรียกว่า Liquid Glass ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างความโปร่งใสและความลื่นไหลขององค์ประกอบต่าง ๆ ในอินเทอร์เฟซ ผู้ใช้จะสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในไอคอน ปุ่ม และเมนูที่มีความโปร่งใสและเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ การออกแบบนี้ถูกนำมาใช้ในระบบปฏิบัติการต่าง ๆ ของ Apple รวมถึง iOS 26, iPadOS 26, macOS Tahoe, watchOS 26, tvOS 26 และ visionOS 26 เพื่อสร้างประสบการณ์ที่สอดคล้องและทันสมัยในทุกอุปกรณ์

สรุปงาน wwdc 2025

WWDC 2025 เมื่อวันที่ 9–13 มิถุนายนที่ผ่านมา Apple ได้เปิดตัวทั้งระบบปฏิบัติการใหม่และฟีเจอร์ที่พัฒนาขึ้นทั่วทั้งอีโคซิสเต็ม ดังนี้:

1. เปลี่ยนระบบชื่อ OS เป็นเวอร์ชันปี (iOS 26, iPadOS 26, macOS Tahoe 26, watchOS 26, tvOS 26, visionOS 26)

  • ใช้โครงสร้างปีแทนเลขเวอร์ชัน เช่น “26” แทน iOS 26
  • เลิกใช้ตัวเลขลำดับ (เช่น iOS 19) ย้ายเป็นปี 2026 (iOS 26, macOS Tahoe, watchOS 26 ฯลฯ) เพื่อให้สอดคล้องกับเวลาออกจริง

2. “Liquid Glass” – ดีไซน์ใหม่ทั่วทุกระบบ

  • หน้าตามีความโปร่งใส เหมือนกระจกเหลว มีเส้นขอบโค้ง นุ่มตา และเนื้อหาแบบลอยตัว (floating panels)
  • ระบบปฏิบัติการทั้งหมด—iOS, iPadOS, macOS, watchOS, tvOS, visionOS—เปลี่ยนโฉมด้วยดีไซน์ซีทรู เหมือนกระจกเหลว มาพร้อมเส้นขอบโค้ง หน้าตาลอยตัว และ Effect กระจกหักเหแสง สอดคล้องกับ UI ของ Vision Pro

3. ฟีเจอร์ใหม่ในแอปหลัก

  • Phone: รวมแท็บเป็นหนึ่ง มี Call Screening, Hold Assist แจ้งเตือนเมื่อมีคนรับสาย
  • Messages: ตั้งฉากหลังได้, โพลล์ในกลุ่ม, แยกผู้ส่งคนแปลกปลอม
  • Camera & Safari: อินเตอร์เฟซใหม่ สะอาดขึ้น

4. Multitasking และ UX บน iPad, Mac, Vision Pro

  • iPadOS 26: เพิ่มฟีเจอร์การจัดวินโดว์, เคอร์เซอร์เมาส์ใหม่, ตัดต่อเหมือน Mac
  • macOS Tahoe 26: Spotlight เพิ่มฟิลเตอร์ และรองรับ Live Activities จาก iPhone
  • VisionOS 26: รองรับ PSVR2, navigation โดยใช้สายตา, avatars สมจริงกว่า

5. Apple Intelligence – เปิดให้นักพัฒนาใช้ on-device AI

  • ฟีเจอร์ใหม่: วิเคราะห์หน้าจอ, แทรกลิงก์/สร้างปฏิทินจากข้อความ, มี Foundation Models Framework ให้นักพัฒนา
  • บน Xcode รวม ChatGPT รองรับการเขียนโค้ดอัจฉริยะ

6. ฟีเจอร์ AI ใหม่เฉพาะ

  • Live Translation (ข้อความ, สายเรียกเข้า, FaceTime), รองรับหลายภาษา even โต้ตอบกับคนไม่ได้ใช้ iPhone แปลข้อความและเสียงเรียลไทม์ ทั้งในข้อความ โทร และ FaceTime บนเครื่องเท่านั้น
  • Genmoji & Image Playground: สร้าง emoji ใหม่จากการผสมคำและภาพ AI รวมถึงสร้างภาพผ่าน ChatGPT API
  • Visual Intelligence: จับภาพหรือเลือกข้อความในหน้าจอเพื่อค้นหาหรือเพิ่มการนัดหมาย
  • AirPods: ใช้ในการถ่ายภาพ, มี Hold Assist ฟังเสียงรอสาย แจ้งเตือนเมื่อถึงคิวจริง
  • Apple Music: แปลเนื้อเพลง, Pronunciation, และ AutoMix DJ transitions
  • Maps: เรียนรู้เส้นทางที่ใช้บ่อย แจ้งเตือนก่อนจราจรหนาแน่น, Visited Places
  • Wallet/Apple Pay: ใบขับขี่ดิจิทัล, Boarding pass ปรับแสดงแผนที่ในสนามบิน, ตามสถานะการจ่ายเงิน “order tracking”

7. watchOS 26 – ฟีเจอร์ออกกำลังกายด้วย AI

  • การเคลื่อนไหวสำหรับควบคุม (wrist flick gesture), มี AI Workout Buddy และ gesture ใหม่ในการใช้งานมือถือ

8. แพลตฟอร์มเกมรวมในระบบ

  • เปิดตัวแอป Games รวบรวม Apple Arcade, โหมดเล่นหลายคน และการแนะนำเกม

9. ฟีเจอร์เล็กน้อยแต่ไม่เล็ก

  • Apple Music: แสดงคำแปลเนื้อเพลง, รองรับ Auto‑mix โดย AI
  • Apple Wallet/Maps: ปรับปรุงการใช้งาน, Apple Pay ติดตามประวัติการจ่าย

10. พัฒนาการของ Siri ยังไม่เสร็จ

  • Apple ยอมรับว่า Siri โฉมใหม่ยังไม่พร้อมในปีนี้ ต้องรอไปก่อน เผยจะปล่อยใน “อีก 1 ปีถัดไป”

11. iOS 26 – ฟังก์ชันและดีไซน์ใหม่

  • Lock Screen: ตัวเลขเวลากระจายเต็มจอ พร้อมสไตล์ 3D บนวอลเปเปอร์
  • Camera + Safari: UI เรียบ ขอบมนลอย ใช้พื้นที่เต็มจอ
  • Phone App: แก้ปัญหาการโทร: ย้ายแท็บ ดูประวัติ, ฟีเจอร์ Call Screening และ Hold Assist ช่วยจัดสายโทรนาน
  • Messages App: ตั้งพื้นหลังแชตได้, พื้นหลังเฉพาะ, ฟีเจอร์โพลล์ และแสดงเมื่อคนพิมพ์

12. Games App

  • แอปใหม่รวบรวมเกมทั้งหมดที่ดาวน์โหลดจาก App Store/Apple Arcade พร้อม Leaderboards และแนะนำเกมเล่นกับเพื่อน

13. ให้ฝั่งนักพัฒนาใช้ AI

  • เปิด Foundation Models API ให้ devs ใช้โมเดล On‑device, Server‑based, และ Xcode มี integration กับ ChatGPT ช่วยเขียนโค้ดอัจฉริยะ

14. Siri ยังไม่ได้รับอัปเกรดใหญ่

  • Apple ยอมรับว่า Siri เวอร์ชันใหม่ยังไม่พร้อมในปีนี้ ต้องรอ “อีก 1 ปีข้างหน้า”

15. สำหรับนักพัฒนา

  • มี session ด้าน privacy, security, AI, visionOS, Apple Intelligence hands‑on, Swift Student Challenge และวิดีโอ/online labs ทั้งสัปดาห์

Apple Intelligence: การผสาน AI เพื่อประสบการณ์ที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น

Apple ได้แนะนำ Apple Intelligence ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ที่ผสานเข้ากับระบบปฏิบัติการต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำงานของอุปกรณ์ โดยมีฟีเจอร์เด่นดังนี้:

  • Live Translation: การแปลภาษาแบบเรียลไทม์ในแอป Messages, FaceTime และการโทรศัพท์
  • Visual Intelligence: การจดจำและวิเคราะห์เนื้อหาบนหน้าจอเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมหรือคำแนะนำ
  • Image Playground: การสร้างภาพด้วย AI จากคำอธิบายหรือสเก็ตช์
  • Genmoji: การสร้างอีโมจิส่วนตัวจากคำอธิบายหรือภาพถ่าย
  • การผสานกับ ChatGPT: Siri สามารถส่งคำขอที่ซับซ้อนไปยัง ChatGPT เพื่อให้คำตอบที่แม่นยำยิ่งขึ้น

iOS 26: การปรับปรุงที่เน้นความชาญฉลาดและการสื่อสาร

ระบบปฏิบัติการ iOS 26 มาพร้อมกับการออกแบบ Liquid Glass และฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่เน้นการสื่อสารและความสะดวกสบาย เช่น:

  • การแปลภาษาแบบเรียลไทม์ ในการสนทนาและการโทร
  • การปรับปรุงแอป Messages ด้วยพื้นหลังแชทแบบกำหนดเองและการแสดงสถานะการพิมพ์
  • การปรับปรุงแอปกล้องและ Safari เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

macOS Tahoe: การเปลี่ยนแปลงที่เน้นการทำงานและการเข้าถึง

macOS Tahoe นำเสนอการออกแบบ Liquid Glass และฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่เน้นการทำงานและการเข้าถึง เช่น:

  • การรวมแอป Phone เพื่อการโทรศัพท์ผ่าน Mac
  • การปรับปรุง Spotlight ด้วยความสามารถในการค้นหาที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น
  • การปรับปรุงแอป Notes และ Calculator เพื่อการใช้งานที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น

iPadOS 26: การยกระดับการทำงานแบบเดสก์ท็อป

iPadOS 26 มุ่งเน้นการยกระดับการทำงานให้ใกล้เคียงกับเดสก์ท็อปมากยิ่งขึ้น โดยมีฟีเจอร์เด่นดังนี้:

  • ระบบจัดการหน้าต่างแบบเต็มรูปแบบ เพื่อการทำงานหลายแอปพร้อมกัน
  • การผสาน Apple Intelligence เพื่อการแปลภาษาแบบเรียลไทม์และการสร้างภาพด้วย AI
  • การปรับปรุงแอป Notes และ Calculator เพื่อการใช้งานที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น

watchOS 26: การออกแบบใหม่และโค้ชฟิตเนสด้วย AI

watchOS 26 มาพร้อมกับการออกแบบ Liquid Glass และฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่เน้นการออกกำลังกายและสุขภาพ เช่น:

  • โค้ชฟิตเนสด้วย AI ที่ให้คำแนะนำการออกกำลังกายแบบส่วนตัว
  • การแปลภาษาแบบเรียลไทม์ ในการสนทนา
  • การปรับปรุง Smart Stack และการนำทางแอป เพื่อการใช้งานที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น

tvOS 26 และ visionOS 26: การยกระดับประสบการณ์ความบันเทิงและความเป็นจริงเสมือน

tvOS 26 และ visionOS 26 มุ่งเน้นการยกระดับประสบการณ์ความบันเทิงและความเป็นจริงเสมือน โดยมีฟีเจอร์เด่นดังนี้:

  • การสนับสนุนหน้าจอพักแบบภูมิภาค และการกำหนดลำโพง AirPlay อย่างถาวรใน tvOS 26
  • การเพิ่มวิดเจ็ตเชิงพื้นที่และการปรับปรุงการเข้าถึง ใน visionOS 26 เพื่อประสบการณ์ที่สมจริงยิ่งขึ้น

ASAF และ APAC: มาตรฐานใหม่ของเสียงเชิงพื้นที่

Apple ได้เปิดตัว Apple Spatial Audio Format (ASAF) และ Apple Positional Audio Codec (APAC) เพื่อยกระดับประสบการณ์เสียงเชิงพื้นที่ โดยมีคุณสมบัติดังนี้:

  • การติดตามการเคลื่อนไหวของศีรษะ เพื่อปรับเสียงตามตำแหน่งของผู้ใช้
  • การผสานกับเนื้อหา Dolby Atmos เพื่อเพิ่มความสมจริงของเสียง
  • การสนับสนุนการสร้างเนื้อหาโดยผู้สร้างรายย่อย ด้วยเครื่องมือมาตรฐานอุตสาหกรรม

สรุปแนวทางสำคัญ

Apple มุ่งเน้นการปรับปรุงด้านดีไซน์แบบยกเซ็ต (Liquid Glass) และเสริมศักยภาพด้าน AI โดยเปิดให้นักพัฒนาใช้โมเดลฝังในอุปกรณ์ (on‑device) พร้อมฟีเจอร์เช่น Live Translation, Visual Intelligence, และ Games Hub ทีละน้อยแต่ทั่วทั้งระบบ

  • ดีไซน์ Liquid Glass ใช้ทั่วระบบ
  • ฟีเจอร์ AI ใหม่: Live Translation, Visual Intelligence, Genmoji, Image Playground
  • เปิดโค้ด AI ให้นักพัฒนาผ่าน Foundation Models
  • แม้ Siri ยังไม่ทัน แต่ overall ecosystem กลายเป็น “smart + fluid” อย่างชัดเจน

WWDC 2025 แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของ Apple ในการสร้างระบบนิเวศที่สอดคล้องและชาญฉลาดยิ่งขึ้น ผ่านการออกแบบใหม่และการผสานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ แม้ว่าการเปิดตัวในครั้งนี้จะเน้นไปที่การปรับปรุงซอฟต์แวร์ แต่ก็เป็นการปูทางสำหรับการเปิดตัวฮาร์ดแวร์ใหม่ ๆ ในอนาคต และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Apple ในการยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ในทุกอุปกรณ์

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *